ชีวิตคู่จะราบรื่น
“เซ็กซ์” ก็เป็นเรื่องจำเป็นนะเออ ถ้าเซ็กซ์เริ่มกร่อย คุณสามีเริ่มบ่นล่ะว่า
ช่วงล่างหลวมไม่กระชับ คุณภรรยาต้องแอบมีหวั่นใจบ้างล่ะ เชื่อว่ามีไม่น้อยที่คิดพึ่ง
“รีแพร์” เพื่อให้ช่องคลอดกลับมากระชับเหมือนเดิม แต่ก่อนจะขึ้นขาหยั่งให้คุณหมอลงมีด
มาทำความรู้จักรีแพร์กันหน่อยเป็นไร
Do It Yourself ทำเองก่อนไหม
บางทีก่อนที่คุณจะตัดสินใจเซย์เยสทำรีแพร์
คุณก็สามารถแก้ไขช่องคลอดให้กลับมากระชับด้วยตัวเองได้อยู่นะ โดยการฝึกขมิบช่องคลอดนั่นเองค่ะ
ทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่เสียตังค์ 555 แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผล
ถึงกระนั้นหลายคนก็ยังรู้สึกว่าความกระชับยังเพิ่มขึ้นได้ไม่มากพอ
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องพึ่งรีแพร์เป็นสเต็ปต่อไปแล้วล่ะ
รีแพร์ช่วยให้กลับมาฟิตปั๋งได้ยังไง
คุณหมอจะผ่าตัดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานในช่องคลอดออกซึ่งจะทำตลอดความยาวทั้งหมดของช่องคลอด
พร้อมกับตัดผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดออกด้วยเพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่านศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลง
และส่วนใหญ่คุณหมอจะทำการผ่าตัดฝีเย็บไปด้วยเลย ก็ไหนๆ
ทำแล้วนี่เนอะก็เก็บซะให้เรียบ อ่านแล้วมีเสียว เดี๋ยวนี้มีการนำเลเซอร์มาใช้ในการทำ
จึงช่วยลดการสูญเสียเลือดและความบอบช้ำของเนื้อเยื่อลงได้มาก
รีแพร์...ไร้แผล
เราอาจเคยชินกับเลเซอร์กระชับผิวโดยไม่เกิดบาดแผล
แล้วเป็นไงล่ะ เดี๋ยวนี้มีการนำแสงเลเซอร์แบบไม่มีบาดแผล (Incisionless Laser Vaginal Tightening -
ILVT) มาใช้ในการกระชับช่องคลอดกันแล้ว โดยแสงเลเซอร์จะไปช่วยทำให้มีการหดตัวของคอลลาเจนในช่วงแรก
และจะกระตุ้นให้มีการสร้างคอลลาเจนรอบๆผนังช่องคลอดในระยะต่อมา
ทำให้ผนังช่องคลอดมีความหนามากขึ้น เส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลง
ความกระชับที่เกิดขึ้นนี้จะค่อยเป็นค่อยไปแบบเป็นธรรมชาติ
หลังทำจะไม่มีแผลผ่าตัดที่ผนังช่องคลอดเลย
จึงไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนแบบการผ่าตัดใช้มีดหรือเลเซอร์ อย่างมีเลือดออกจากแผล, แผลติดเชื้อ
เป็นต้น อาจรู้สึกตึงๆบริเวณช่องคลอดเพียงเล็กน้อย บางคนอาจไม่มีอาการอะไรเลย
ช่วงพักฟื้นงดทำเรื่องอย่างว่าประมาณ 1 เดือน ระยะเวลาสั้นกว่าผ่าตัดแบบเดิมที่ต้องงดถึง
2 เดือน ดูมีข้อดีเยอะแยะ แต่วิธีนี้ก็มีข้อจำกัดตรงที่ความกระชับที่ได้จะขึ้นอยู่กับกระบวนการสร้างคอลลาเจนของแต่ละคนด้วย ผลที่ได้จึงอาจไม่เท่ากัน
เดี๋ยวจะวีนว่าทำไมชั้นไม่ฟิตเท่าคนนู้นคนนี้
ขอบคุณภาพ : โรงพยาบาลยันฮี |
หลังทำคงความกระชับได้นานแค่ไหน
เจ็บตัวทั้งทีคุณผู้หญิงก็คงอยากให้ความกระชับคงอยู่ไปนานๆ
แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะมีหลายปัจจัยที่ทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยได้อีก
บางคนแค่ 1 -2 ปีก็หย่อนคล้อยล่ะ บางคนอาจนาน 4-5 ปี แต่ก็มีบางคนคงอยู่ถึง
7-8 ปีเลยก็มี ซึ่งการที่ผนังช่องคลอดจะกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วหรือช้าขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้ค่ะ
- ถ้าหลังผ่าตัดคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้เป็นประจำ เช่น ท้องผูก, ไอจาม
(จากภูมิแพ้), ยกของหนัก (จากอาชีพ) เป็นต้น ก็จะทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วขึ้น
เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวจะไปเพิ่มความดันภายในช่องท้อง และแรงที่มากระทบกับผนังช่องคลอด
- ถ้ารังไข่ยังคงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นปกติ
ระดับของฮอร์โมนตัวนี้ในร่างกายยังสูง ก็อุ่นใจได้ว่า ผนังช่องคลอดจะมีความหนานุ่ม
ชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่นดี แต่ถ้าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ก็เตรียมใจเลยค่ะ
เพราะผนังช่องคลอดจะบาง แห้งไม่ยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อยขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้คงต้องบอกว่า
ไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่า หลังทำรีแพร์ไปแล้ว รังไข่ของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร หรือกี่ปีระดับฮอร์โมนจึงจะเริ่มลดลง
แต่โดยปกติระดับฮอร์โมนเพศจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
- ถ้าในกระบวนการหายของแผลที่ช่องคลอดจากการทำรีแพร์มีการสร้างคอลลาเจนมาก
ผนังช่องคลอดก็จะมีความยืดหยุ่น ความกระชับอยู่ได้นาน แต่ถ้าสร้างคอลลาเจนได้น้อย ความตึง
ความกระชับของช่องคลอดก็จะน้อยตามไปด้วย ซึ่งความแตกต่างตรงนี้ก็จะทำให้ความหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดเกิดช้าเร็วไม่เท่ากัน
ก็ต้องทำใจอะนะ ถ้าปัจจัยไหนควบคุมไม่ได้
เช่น ระดับฮอร์โมน หรือการหายของบาดแผล ที่ทำได้ก็เห็นจะเป็นไอ้พวกพฤติกรรมต่างๆ
นั่นแหละ ถ้าปรับเปลี่ยนได้ก็จะช่วยชะลอความหย่อนคล้อยได้ในระดับหนึ่งค่ะ