คนส่วนใหญ่มักจะรู้จัก รีแพร์ ว่าคือ การผ่าตัดทำสาว ผู้หญิงคนไหนไปทำรีแพร์ มักถูกเหมาว่าต้องไปผ่าตัดให้ช่องคลอดกระชับขึ้นเพื่อหวังผลกับกิจกรรมอย่างว่าถ่ายเดียว
จริงๆ แล้วถ้าคุณผู้หญิงมีปัญหาช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน คุณหมอสูติจะแนะนำให้ทำรีแพร์เช่นกันค่ะ
ไม่ยากส์ค่ะ คนไข้ที่มีปัญหานี้มักจะมีปัญหาอื่นตามมาที่ทำให้ดำเนินชีวิตได้ไม่ปกติสุขนัก
เป็นต้นว่า เจ็บปวดขณะประกอบกิจอย่างว่า บางคนมีมดลูกเคลื่อนย้อยลงมาในช่องคลอด
หรือไม่ก็มีปัญหาปัสสาวะเล็ด ซึมหรือกลั้นไม่อยู่ระหว่างการทำงาน ออกกำลังกาย
หรือแม้แต่ในยามที่ไอหรือจาม
ซึ่งปัญหาปัสสาวะเล็ดนี่แหละที่มักทำให้คนไข้วิ่งโร่มาพบแพทย์ ลองนึกสภาพดูค่ะ จะขยับจะทำอะไรทีก็มีปัสสาวะเล็ด รั่ว ซึม เป็นใครจะไม่เครียดไม่เซ็งมั่ง ซึ่งถ้ามาพบหมอแล้วมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ชัดๆ อย่างนี้ หมอก็จะแนะนำให้ทำรีแพร์ ถึงไม่อยากทำหมอก็จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ทำ ทั้งนี้ก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไข้เอง ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จะผ่าๆ ท่าเดียว อยู่ดีๆ คงไม่มีคุณหมอท่านไหนอยากจับใครมาผ่าให้เจ็บตัวให้เสี่ยงโดยไม่มีข้อบ่งชี้ที่ควรทำหรอกค่ะ
ซึ่งปัญหาปัสสาวะเล็ดนี่แหละที่มักทำให้คนไข้วิ่งโร่มาพบแพทย์ ลองนึกสภาพดูค่ะ จะขยับจะทำอะไรทีก็มีปัสสาวะเล็ด รั่ว ซึม เป็นใครจะไม่เครียดไม่เซ็งมั่ง ซึ่งถ้ามาพบหมอแล้วมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ชัดๆ อย่างนี้ หมอก็จะแนะนำให้ทำรีแพร์ ถึงไม่อยากทำหมอก็จะพยายามเกลี้ยกล่อมให้ทำ ทั้งนี้ก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไข้เอง ไม่ใช่ว่าเอะอะก็จะผ่าๆ ท่าเดียว อยู่ดีๆ คงไม่มีคุณหมอท่านไหนอยากจับใครมาผ่าให้เจ็บตัวให้เสี่ยงโดยไม่มีข้อบ่งชี้ที่ควรทำหรอกค่ะ
เอาล่ะ เมื่อรู้ว่ารีแพร์ไม่ได้แค่ผ่าตัดทำสาว แต่ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนได้ด้วย งั้นเรามารู้จักภาวะนี้และการรักษาด้วยการทำรีแพร์กันค่ะ
ช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนเกิดได้ยังไง
· เกิดจากการคลอดบุตร
· สาเหตุอื่นๆ
เช่น ยกของหนัก,
มีภาวะท้องผูกเรื้อรัง เป็นต้น
แบบ 1
มีการหย่อนของช่องคลอดเป็นถุงด้านหน้าซึ่งจะมีกระเพาะปัสสาวะหย่อนตาม เรียกว่า กระเพาะปัสสาวะหย่อน หรือ Cystocele
แบบ 2
มีการหย่อนเป็นถุงด้านหลังมีลำไส้ใหญ่ส่วนทวารหนักหย่อนตาม เรียกว่า ลำไส้หย่อน หรือ Rectocele
แบบ 3
มีทั้งแบบที่ 1 และ 2 พร้อมกัน นั่นคือ มีการหย่อนยานของช่องคลอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
· สมัยนี้การทำรีแพร์คุณหมอสามารถเลือกผ่าตัดโดยใช้มีดผ่าตัดหรือจะใช้เลเซอร์ก็ได้
· การผ่าตัดมี 2 วิธี ได้แก่
· การผ่าตัดมี 2 วิธี ได้แก่
วิธีแรก เป็นการผ่าตัดแบบเดิมที่คุณหมอยังคงใช้อยู่ทั่วไป วิธีการคือจะใช้วิธีการเย็บติดเพื่อรวบเนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน
วิธีที่สอง เป็นเทคนิคใหม่ในการรักษา โดยการนำเอาแผ่นพยุงตาข่ายพิเศษ
(mesh) แปะหรือฝังในผนังช่องคลอด ซึ่งพบว่าประสบความสำเร็จในการแก้ไขช่องคลอดหย่อนยานสูงถึง
95%
คุณหมอจะเป็นคนเลือกวิธีการผ่าตัดว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับปัญหาของคนไข้
อย่างคนไข้ที่มีการหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดส่วนหน้า (Cystocele) ปัจจุบันคุณหมอไม่นิยมผ่าตัดแก้ไขแบบดั้งเดิมเนื่องจากมีอัตราความล้มเหลวถึง 25-60% แต่จะหันไปใช้เทคนิคการใช้แผ่นพยุงตาข่ายพิเศษ (mesh) แทน ซึ่งหลังทำคนไข้จะไม่มีความรู้สึกว่ามีแผ่นพยุงอยู่ในช่องคลอดเลย
ส่วนคนไข้ที่มีผนังด้านหน้าของทวารหนักยื่นเป็นถุงเข้าไปทางช่องคลอด (Rectocele) จะเลือกผ่าตัดเย็บแบบดั้งเดิม หรือจะผ่าตัดรูปแบบใหม่ที่มีการนำตาข่ายพิเศษมาใช้ก็ได้
กรณีคนไข้ที่มีการหย่อนยานของช่องคลอดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง (แบบ 3) คุณหมอจะผ่าตัดแบบดั้งเดิมโดยเอาผนังช่องคลอดทั้งด้านหน้า-ด้านหลังและเนื้อเยื่อส่วนเกินที่ยื่นเข้าไปในช่องคลอดออกไป และยังตกแต่งกระเพาะปัสสาวะและลำไส้ส่วนปลายที่หย่อนคล้อยให้ด้วย แต่ถ้าอุ้งเชิงกรานหย่อนรุนแรงมากอาจต้องใช้แผ่นพยุงตาข่ายพิเศษเพื่อช่วยให้อวัยวะในอุ้งเชิงกรานกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิมได้ดีขึ้น
การทำรีแพร์แก้ไขช่องคลอดหย่อนยานจากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อน หลังทำต้องนอนพักฟื้นที่ รพ. อย่างน้อย 4 วัน ไม่ได้กลับบ้านได้เลยอย่างการทำรีแพร์ให้ช่องคลอดกระชับหรือผ่าตัดทำสาว การผ่าตัดก็ยุ่งยากกว่านิดหน่อย คือคนไข้จะถูกวางยาสลบหรือให้ยาชาทางไขสันหลัง และใช้เวลาทำนานกว่าคือประมาณ 2 ชั่วโมง
ส่วนการเตรียมตัวก่อนทำและการดูแลหลังทำ
ไม่แตกต่างจากการผ่าตัดทำสาว
- บอกสามีก่อนทำ
- งดน้ำงดอาหารก่อนทำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
- ควรทำช่วงที่ประจำเดือนหมดไม่เกิน 1 อาทิตย์ ป้องกันการติดเชื้อและแผลอักเสบ
- ก่อนทำควรตรวจภายใน ตรวจมะเร็งปากมดลูกให้เรียบร้อย
- งดเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 45 วัน
- เลี่ยงยกของหนักหรือเดินมาก