แค่ได้ยินว่า “สิว” ก็อยากกรี๊ดสลบแล้วล่ะ
โดยเฉพาะน้องๆ วัยรุ่นวัยใสเอ๊าะๆ แหม่...เป็นแล้วเสียเซลฟ์สุดๆ แล้วไอ้สิวเจ้ากรรมก็ดันเป็นบ่อยในช่วงวัยนี้ซะด้วย
เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ
โดยร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเพศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานหนักขึ้น
สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นเมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นไปแล้วนั่นแหละ
และส่วนใหญ่สิวจะหายไปหลังอายุ 25 ปี แต่ก็มีเหมือนกันที่อายุสี่ห้าสิบแล้วก็ยังเป็นอยู่
มาดูสาเหตุอื่นๆ
ที่ทำให้เกิดสิวกันมั่ง
1. กรรมพันธุ์
2. ติดเชื้อแบคทีเรีย พีแอคเน่
(P. acnes) แบคทีเรียชนิดนี้จะไปย่อยไขมันในต่อมไขมันให้เป็นกรดไขมันอิสระ ทำให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังบริเวณต่อมไขมัน
3. ความเครียดกังวล อดนอนหรือนอนดึก จะกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองหลั่งสารชนิดหนึ่งออกมากระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานเพิ่มขึ้น สังเกตมั้ยว่าคนนอนดึกตอนเช้าตื่นมาหน้าจะมันกว่าปกติ
4. ใช้เครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่เหมาะกับสภาพผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าแห้งหรือมันเกินไป
5. ล้างหน้าแรง ๆ เช็ดถูหน้าบ่อยๆ
หรือคนที่ชอบนวดหน้า อาจมีอาการระคายเคืองจากสารเคมีในครีมนวดหน้าทำให้เกิดสิวอักเสบได้
รู้ต้นเหตุกันล่ะ ทีนี้ถ้าไม่อยากให้ผิวสวยๆ เห่อไปด้วยสิว ควรจะทำยังไง ถ้าเป็นสิวในวัยรุ่นที่ฮอร์โมนกำลังพลุ่งพล่านหรือใครที่มีกรรมพันธุ์ตกทอดมาจากพ่อแม่นี่ ก็คงต้องทำใจล่ะนะ แล้วไปหาทางป้องกันทางอื่นเอา อย่างวัยรุ่นที่มีโอกาสเป็นสิวง่ายอยู่แล้ว แล้วยังมาเครียดกังวลในช่วงเวลาใกล้สอบอีก ก็อาจมีสิวเห่อขึ้นได้ ดังนั้นน้องๆ จึงควรตั้งใจเรียนจะได้ไม่ต้องเคร่งเครียดมากนักเวลาใกล้สอบ และหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำบ้าง
เอาล่ะ ไม่อยากให้เกิดสิวหรือมีสิวน้อยลง ควรทำไงบ้าง ไปดูกันค่ะ
ล้างหน้า...ล้างให้ถูกวิธี
ใครที่คิดว่าล้างหน้าบ่อยๆ
จะไม่เป็นสิวเปลี่ยนความคิดซะ! การล้างหน้าบ่อยๆ จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำมัน ต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาชดเชยทำให้เป็นสิวได้
ให้ล้างหน้าแค่วันละ 2
ครั้งก็พอ สบู่หรือครีมล้างหน้าที่ใช้ก็ควรเลือกแบบอ่อน ไอ้ประเภทผสมน้ำหอมนี่เลิกใช้ไปซะ
เพราะทำให้ผิวระคายเคืองและเกิดสิวได้ เวลาล้างหน้าก็กรุณาเบามือสักนิด
ไม่ใช่ถูเอาเป็นเอาตาย จนผิวระคายเคืองทีนี้ก็ได้กระตุ้นให้สิวกำเริบหนักไปอีก ส่วนสาวหน้ามันอนุญาตให้ล้างหน้าเพิ่มได้อีก
1 ครั้งในช่วงกลางวัน
ฉลาดใช้เครื่องสำอาง
- เลือกเครื่องสำอางที่เหมาะกับสภาพผิว
- บอกลาเครื่องสำอางประเภทครีมที่มีปริมาณน้ำมันค่อนข้างสูง
อย่างเช่น ครีมรองพื้น ครีมก่อนนอน ครีมบำรุงผิว เป็นต้น
- สาวๆ ที่แต่งหน้า
ก่อนนอนต้องล้างเครื่องสำอางออกให้หมด ไม่ต้องทำตัวเป็นนางเอกละคร นอนทั้งๆ ที่หน้ายังจัดเต็มล่ะ
รบกวนผิวหน้า...อย่าให้บ่อย
สาวๆ ที่ชอบขัดหน้า
จะขัดเองหรือไปนอนให้ช่างทำให้ ต้องระวังค่ะ การขัดหน้าอย่างรุนแรงจะทำให้ผิวระคายเคืองได้ ส่วนใครที่ชอบสัมผัสผิวหน้าบ่อย
ๆ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือทีเผลอ ก็ให้พยายามเลิกพฤติกรรมนี้ซะ
ทำเรื่องเหล่านี้ได้...ส่งผลดีแน่
- ลดความเคร่งเครียด วิตกกังวลลงซะ
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึก อย่าอดนอน
- ออกกำลังกายเป็นประจำ “มีวินัยๆ” ท่องไว้
- กินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าตามใจปากมาก
อาหารขยะเพลาๆ ลงบ้าง
ขุดสารพัดวิธีมาใช้ก็แล้ว
สิวยังตามรังควานไม่เลิก ถ้าไม่อยากทนเห็นหน้าสวยๆ มีสิวผุดตรงนู้นตรงนี้ สเต็ปต่อไปแนะนำให้พบคุณหมอ
ใครคิดพึ่งครีมรักษาสิวในท้องตลาด ต้องดูดีๆ ไม่งั้นอาจเจอยาปลอมทำหน้าพังกว่าเดิม
ยุ่งเลยนะ ถ้าคิดจะรักษาควรรักษาตั้งแต่ยังเป็นน้อยๆ จะได้ผลดีกว่า แถมลดโอกาสดื้อยาด้วย
ไปพบคุณหมอแล้ว
หมอจะทำอะไรให้มั่ง
โดยทั่วไปการรักษาสิวจะมีอยู่ 2 วิธีหลักๆ
คือ
- กินยา
- ทายา
จะกินหรือจะทา
หรือใช้คู่กัน คุณหมอจะดูจากสภาพคนไข้ เช่น คนไข้เป็นสิวชนิดไหน รุนแรงมากน้อยเพียงใด
ไม่ใช่ใครมาก็สูตรเดียวกันหมด และอาจใช้การรักษาเสริมอื่นพ่วงด้วย เป็นต้นว่า
- ถ้าสิวมีการอุดตันมาก อาจต้องกดสิว
- ถ้าสิวมีการอักเสบมาก ๆ เช่น สิวหัวช้าง อาจต้องฉีดยาให้ยุบเร็วขึ้น
ส่วนใหญ่คนเป็นสิวจะใจร้อน
ไปเจอหมอวันนี้พรุ่งนี้อยากให้สิวหายล่ะ แหม่...คุณหมอเค้าก็ลำบากใจนะคร้า
สิวจะดีขึ้นช้าเร็วขึ้นกับเป็นสิวรุนแรงแค่ไหน ถ้าเป็นน้อย ๆ พอขำๆ อาทิตย์เดียวก็อาจกลับมาหน้าปิ๊งได้
แต่ถ้าเป็นพวกสิวอักเสบหนักๆ หรือสิวหัวช้างก็อาจใช้เวลาเป็นแรมเดือน หรือนานกว่านั้น
ก็ต้องใจเย็นกันนิดนึง
ไอ้ที่ต้องเตือนเห็นจะเป็นคนที่เป็นสิวแล้วชอบแกะ
กด บีบสิว อยากปราดเข้าไปตีมือนัก รู้มั้ยว่าพฤติกรรมยังงี้แหละที่ทำให้ผิวหน้าเกิดรอยดำ
เป็นแผลเป็น ผิวหน้าขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อ เพราะการไปบีบไปเค้นจะทำให้สิวยิ่งอักเสบมากขึ้น
ฉะนั้นก็หักห้ามใจห้ามมือกันด้วยล่ะ
แต่ถ้าพลาดไปแล้วสิวหายทิ้งรอยดำ
แผลเป็น รอยขรุขระไว้ ก็อย่าเพิ่งเสียกำลังใจ เดี๋ยวนี้มีวิธีแก้ไขหลายวิธี
ง่ายหน่อยก็ทายา ยุ่งยากขึ้นมาอีกนิดก็ทำไอออนโต กรอผิว ใช้เลเซอร์ช่วยก็ยังได้ แต่ถ้าไม่อยากต้องมาตามแก้กันทีหลังล่ะก็
ป้องกันตั้งแต่แรกด้วยการไม่กด แกะ บีบ สิวดีที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น