คนทุกวันนี้ใช้ชีวิตไม่ง่าย
ใครบอกว่าชีวิต ดี๊ ดี ไม่รู้ว่าพูดไปปาดน้ำตาไปหรือเปล่า ยิ่งคนที่ใช้ชีวิตในเมืองที่แสนเครียด
แก่งแย่งแข่งขัน สิ่งแวดล้อมย่ำแย่ อากาศมีแต่มลภาวะ ควันจากท่อไอเสียรถยนต์
อาหารขยะเกลื่อนเมือง อาหารปนเปื้อนก็มีไม่น้อย ร่างกายของเราจึงรับเอาสารพิษเข้าไปเกือบทุกวัน
บางทีซ้ำร้ายเป็นสารโลหะหนัก จริงๆ
แล้วร่างกายก็มีกลไกกำจัดสารพิษออกไปได้เอง แต่มีข้อแม้ว่าต้องในปริมาณที่ไม่มากเกินไปนะ
ถ้าเกินขีดจำกัดก็จะทำให้เกิดสารพิษตกค้างสะสมในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
มีโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เกิดขึ้นได้ หลายคนจึงเริ่มมองเห็นความสำคัญของการล้างสารพิษออกจากร่างกาย
ซึ่งเราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เอะอะกินยา หรือวิ่งโร่ไปหาหมอ และต่อไปนี้เป็นวิธีล้างพิษแบบง่ายๆ
ที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงค่ะ
น้ำ...ห้ามขาด
น้ำไม่เพียงช่วยชำระล้างสิ่งสกปรกภายนอกร่างกาย
น้ำยังช่วยนำของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกายของเราด้วย ซึ่งช่องทางที่สารพิษถูกขับออกจากร่างกายมีหลายทาง
ได้แก่ ทางปัสสาวะ อุจจาระ การหายใจ เหงื่อ ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน
โดยเฉลี่ยควรดื่มอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร หรือประมาณ 6 – 8 แก้ว น้ำเปล่าที่ใสสะอาด ปราศจากสี
กลิ่น และตะกอน นี่แหละดีที่สุด ดื่มแล้วก็ไม่ต้องกังวลว่าจะอ้วนเพราะน้ำเป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน
ส่วนคนที่อยากดื่มน้ำอื่นๆ ที่ไม่ใช้น้ำเปล่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำหวาน น้ำผลไม้ ชา
กาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ ก็ได้เหมือนกัน แต่ดื่มเยอะไปก็รับน้ำตาลเข้าไปด้วย
อ้วนไม่รู้นะเออ ฉะนั้นดื่มบ้างพอชื่นใจแต่เน้นน้ำเปล่าดีที่สุดค่ะ
คัดสรรสิ่งที่กิน
ลดการบริโภคอาหารสมัยใหม่
อาหารดัดแปลง เนื้อสัตว์ อาหารที่อุดมด้วยแป้งขัดขาว น้ำตาล ไขมัน เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้เกิดคราบตะกรันเหนียวหนับเกาะสะสมที่ผนังลำไส้ แม้จะถ่ายอุจจาระทุกวันก็ออกไปได้ไม่หมด
ทำให้เป็นแหล่งเพาะแบคทีเรีย เกิดการบูดเน่าหมักหมม และเกิดสารพิษที่เป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ
ผักผลไม้อย่าให้ขาด
เพิ่มเส้นใยอาหารในแต่ละมื้ออาหาร
ด้วยการกินผักและผลไม้ ถ้าไม่อยากน้ำหนักขึ้นก็เลือกกินผักและผลไม้สดที่มีรสไม่หวานนัก
เส้นใยอาหารจะไปทำหน้าที่อุ้มน้ำ ไขมัน และแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้อุจจาระเคลื่อนตัวเร็ว
ไม่เกิดการหมักหมมในลำไส้ และถูกขับถ่ายออกจากร่างกาย
ล้างก่อนกิน
กินผักผลไม้เพิ่มเส้นใยให้ไปกวาดลำไส้ให้สะอาด
แต่ต้องระวังอย่าไปเพิ่มสารพิษให้ร่างกายเข้าล่ะ
ดังนั้นก่อนกินหรือนำไปปรุงควรล้างให้สะอาด จะได้ไม่มียาฆ่าแมลงตกค้าง
ถ้าเป็นไปได้อย่ากินผักหรือผลไม้ซ้ำ ๆ กัน ให้กินหลากหลายเข้าไว้ จะได้ไม่ต้องรับสารเคมีตัวเดิมๆ
เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อย่าให้ท้องผูก
หากปล่อยให้ท้องผูก สารพิษสะสมที่เกิดจากการบูดเน่าของอุจจาระก็จะคั่งค้างหมักหมมในลำไส้และดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
ถ้าไม่อยากท้องผูกมีหลายวิธีที่ช่วยได้
- กินอาหารที่มีกากใยเยอะๆ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
น้ำจะไปช่วยให้กากอาหารอ่อนตัวลง ขับออกได้ง่าย
- ออกกำลังกาย
เหมือนไม่เกี่ยวแต่เกี่ยวนะจ๊ะ
การออกกำลังกายจะช่วยให้ลำไส้ขยับเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
ทำให้อาหารส่งผ่านไปได้สะดวก กากอาหารจึงไม่หมักหมมอยู่ในลำไส้ โอกาสเกิดท้องผูกก็ลดลง ถ้างอแงว่าจะหาเวลาไหนมาออกกำลังกาย
เอาเป็นว่าแค่เดินสัก 20-30
นาทีก็ช่วยให้ลำไส้ได้เคลื่อนไหวแล้วล่ะ
- ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาทุกวัน
ฝึกบ่อยๆ จนเคยชิน
- ปวดแล้วอย่ากลั้นไว้
- ผ่อนคลายความเครียดลงซะบ้าง
- ชา
กาแฟ แอลกอฮอล์ งดได้ควรงด เพราะไปทำให้ลำไส้บีบตัวน้อยลง
ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายมีประโยชน์สารพัด
รวมถึงการขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย โดยร่างกายจะขับสารพิษผ่านเหงื่อและรูขุมขน เลือกวิธีออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ
สะดวก จะได้ทำเป็นประจำไม่นึกเบื่อไปซะก่อน
ถ้าจะให้ดีควรเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรคบิก ทำติดต่อกันอย่างน้อย 20 นาที
เห็นมั้ยคะว่าล้างพิษด้วยตัวเองง้าย
ง่าย คุณก็ทำได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัยความตั้งใจและวินัยพอสมควร
ถ้าอยากสุขภาพดีก็เริ่มที่ตัวคุณเองก่อนนั่นแหละ
ทำแล้วก็อย่าล้มเลิกความตั้งใจกันง่ายๆ ล่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น