กระแสหน้าใสไม่เคยตกเทรนด์ สาว ๆ
หลายคนที่ดูแลผิวหน้าให้สวยใสแบบจัดเต็ม เป็นต้นว่าพฤติกรรมอะไรที่ว่าดีก็รีบทำ อะไรที่ว่าแย่ทำร้ายผิวหน้าก็ลด ละ เลิก สูตรพอกหน้าที่ใครว่าเจ๋งก็ไม่เคยพลาด ถ้าทำเป็นประจำวินัยสม่ำเสมออย่างนี้ ผิวหน้าจะใสเป๊ะคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สาวบางคนที่ยังรู้สึกว่าผิวหน้าไม่ใสยังแผ่ออร่าไม่สมใจล่ะก็ คงต้องหาตัวช่วยเพิ่ม ถ้าจะเอาแน่นอนก็พึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ไปเลย อย่างเช่น อโรร่า
(Aurora)
แต่เดิมการทำหน้าใสจะรักษาด้วยแสง IPL หรือ
แสงความเข้มข้นสูง (Intense pulsed light) อย่างเดียว ซึ่งได้ผลดีในระดับหนึ่ง ต่อมาได้มีการผสมผสานเทคนิคเพื่อให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น กลายเป็นเทคโนโลยีอโรร่าที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่ล่ะค่ะ
เทคโนโลยีอโรร่าเป็นการนำแสง IPL มาใช้ร่วมกับ
RF หรือคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency) หลักการก็คือ การฉายแสง IPL ลงไปจับกับเป้าหมายซึ่งได้แก่
เม็ดสีต่างๆ และสารฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงในชั้นหนังแท้ก่อน ทำให้เป้าหมายมีอุณหภูมิสูงขึ้น และมีความต้านทานต่อคลื่นความถี่วิทยุ หรือ
RF น้อยลง ทำให้คลื่นความถี่วิทยุสามารถผ่านลงไปถึงเป้าหมายได้มากขึ้น
ส่งผลให้เส้นเลือดฝอยดีขึ้น ผิวหน้าขาวใส รอยดำ กระ จางลง และการที่มีอุณหภูมิในชั้นหนังแท้เพิ่มขึ้นยังเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหน้าเต่งตึง ริ้วรอยลดลง รูขุมขนกระชับขึ้น
การทำหน้าใสด้วยอโรร่าใช้เวลาในการทำประมาณ 30 นาที
ซึ่งถือว่าสั้นมาก ไม่ต้องใช้ยาชาทา ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก คุณหมอจะฉายแสง
IPL และคลื่นความถี่วิทยุลงไปบริเวณผิวหน้าจนทั่ว อาจเน้นในบางจุดที่มีปัญหาเป็นพิเศษ หลังทำอาจจะมีรอยแดงๆ บ้างเล็กน้อย ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องตกใจ สาวๆ สามารถแต่งหน้าไปทำงานต่อได้เลย
ถ้าอยากหน้าขาวใสเห็นผลชัดเจนให้ทำซ้ำทุก 1 เดือน ประมาณ
4-5 ครั้งค่ะ
สาวๆ ที่ใต้วงแขนหรือรักแร้ดำ ปัญหาชวนสยองของสาวๆ
ทั้งโลก สามารถปรึกษาคุณหมอแก้ไขได้ด้วยอโรร่าเช่นกัน เรียกว่าไม่ได้ทำหน้าขาวใสได้อย่างเดียว
จุดละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกของสาวๆ อย่างรักแร้ก็ทำให้ขาวขึ้นได้ จะใส่เสื้อแขนกุด
เกาะอก ยกแขนโชว์รักแร้ก็ไม่ต้องเหนียม ๆ อาย ๆ อีกต่อไป
ถ้าจะมอบสโลแกน...ขาวบริ๊งตั้งแต่หน้ายันรักแร้...ให้
คงไม่เว่อร์หรอกใช่มะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น