วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สาวอยากสลิม...น่าจะทำความรู้จัก “อัลตรา สลิม” ไว้นะ

        

        มาอีกล่ะ นวัตกรรมสลายไขมันส่วนเกิน กระชับสัดส่วน อัลตรา สลิม (Ultra Slim) ฟังแค่ชื่อก็ปังแล้วใช่มะ ก็คำว่า สลิม มันชวนให้ฝันว่าหุ่นจะสลิมสมชื่อไง แล้วจริงๆ ไอ้นวัตกรรมที่ว่านี่มันดีจริงหรือเปล่า คุณผู้อ่านที่สงสัยเหมือนกัน บอกเลยว่าไม่ต้องไปหาข้อมูลให้เสียเวลา เพราะผู้เขียนได้ไปสืบค้นมาฝากแล้วค่ะ

รู้ไว้ก่อน...กันหน้าแตก
ถ้าไปได้ยินคำว่า แอคเซนต์ อัลตรา (Accent Ultra) ก็ไม่ต้องตกใจ เฮ้ย! มีเทคโนโลยีใหม่ผุดมาอีกแล้วเรอะ Accent Ultra ก็คือ Ultra Slim สองคำนี้ความหมายเดียวกันค่ะ

Ultra Slim ทำอะไรได้บ้าง
        รู้แล้วต้องร้อง ว้าว กันเลยล่ะ


สลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด อาทิ บริเวณใบหน้า 
ใต้คาง ต้นแขน เอว สะโพก ต้นขา หน้าท้อง ฯลฯ

ช่วยกระชับสัดส่วน

ลดเซลลูไลท์ หรือ ผิวเปลือกส้ม


Ultra Slim มีหลักการทำงานยังไง

ก็ไม่ได้ทำงานแบบข้ามาคนเดียวไง ตรงกับสุภาษิต “คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย” ค่ะ ก็เพราะว่า Ultra Slim จะเป็นการผสาน 2 เทคโนโลยีเพื่อความงามเอาไว้ด้วยกัน นั่นคือ การใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) และ พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency)
ส่วนของคลื่นอัลตราซาวด์ จะเป็นคลื่นที่จำเพาะเจาะจงในการทำให้เซลล์ไขมันแตกสลาย โดยไม่ทำลายเส้นเลือด และเส้นประสาทในบริเวณที่ทำ
ส่วนของคลื่นความถี่วิทยุ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนัง กระตุ้นให้เกิดการจัดเรียงตัวของเส้นใยคอลลาเจนให้เป็นระเบียบมากขึ้น กระตุ้นระบบไหลเวียนน้ำเหลืองทำให้เซลล์ไขมันที่แตกตัวถูกดูดซึม และไหลเวียนออกมาตามระบบน้ำเหลืองได้ดีขึ้น

วางใจ Ultra Slim ได้เพียงใด
·   เป็นการขจัดไขมันส่วนเกินโดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ไม่มีการลงมีดผ่าตัดให้เจ็บตัว
·   ไม่มีอาการเจ็บระหว่างทำ

      ·   มั่นใจได้ในประสิทธิภาพและความปลอดภัย เนื่องจาก Ultra Slim ผ่านการรับรองทั้ง อย. ไทย และ สหรัฐ





เตรียมตัวให้มั่นใจก่อนทำ

แพทย์จะตรวจเช็คประวัติ ถ้าร่างกายแข็งแรงดีไม่มีโรคประจำตัว สามารถทำได้เลย คนไข้ก็มักทำในวันที่มาพบหมอนั่นแหละ แต่บางคนสุขภาพไม่อำนวยไง หมอก็ต้องพิจารณาเป็นเคส ๆ ไป ไม่ใช่ตะพรึดตะพรือทำให้ เดี๋ยวจะเป็นอันตรายต่อคนไข้ อย่างคนที่เป็นมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน มีภาวะติดเชื้อ ตั้งครรภ์ และอีกหลายๆ ภาวะที่ไม่เหมาะจะทำ คุณหมอก็ต้องเบรกไว้ก่อน หน้าที่คุณคือบอกประวัติคุณหมอไปตามจริงเพื่อให้คุณหมอพิจารณาว่าคุณเหมาะจะทำได้หรือไม่ค่ะ



สเต็ปการทำ...ใครว่าน่ากลัว


·   เริ่มจากทาครีมในบริเวณที่จะทำการรักษา
·  หลังทาครีมแล้ว จะเริ่มใช้หัวยิงอัลตร้าซาวด์ปล่อยพลังงานลงไปตรงบริเวณที่ทำการรักษา แล้วนวดคลึงไปรอบๆ ขณะทำจะรู้สึกอุ่นๆ สบายๆ ตรงบริเวณที่ทำเล็กน้อย
·   หลังจากนั้นจะเปลี่ยนไปใช้หัวยิงคลื่นวิทยุโดยจะปล่อยพลังงาน เพื่อเพิ่มความกระชับของผิวให้มากขึ้น ขณะทำอาจรู้สึกร้อนตรงบริเวณที่ทำในระดับทนได้


·   ส่วนเวลาที่ทำต้องดูว่าบริเวณที่ทำมากน้อยแค่ไหน ถ้าน้อยก็ใช้เวลาน้อย ถ้าเยอะก็นอนทำนานหน่อย โดยเฉลี่ยจะใช้เวลาประมาณ 30-60 นาที
·   หลังรักษาเสร็จก็กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นหรือคอยหลบหน้าผู้คน ข้อนี้โดนใจจริงๆ ค่ะ ก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าไปทำสวยมานี่เนอะ

ผลอาจมีบ้างหลังทำ...ไม่ต้องตกใจ

·  ผิวไปผ่านอะไรมายังงี้ ก็อาจมีบ้างที่ผิวจะแดงหรือเป็นสีชมพูระเรื่อ และรู้สึกอุ่นๆ บริเวณที่ทำ แต่อย่ากังวลเพราะไม่ได้เป็นไปตลอด แค่ช่วงสั้น ๆ 24 ชั่วโมงก็จะหายไป


·    ช่วง 3 วัน คนไข้ต้องทำอะไรมั่ง...(แล้วเคร่งครัดด้วยล่ะ)
-  ดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้ว/วัน
-  หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องมีการเสียเหงื่อ
-  ห้ามอบซาวน่า
-  ห้ามดื่มแอลกอฮอล์

หลังทำแล้ว...ยังไงต่อ

·  จำนวนครั้งในการทำขึ้นกับระดับไขมันส่วนเกิน และสภาพผิวของคนไข้ เดี๋ยวคุณหมอก็จะแนะนำเองค่ะว่าควรทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผลดี ถ้าต้องทำซ้ำต้องทิ้งช่วงห่างกันประมาณ 2 สัปดาห์ ให้ผิวหนังได้ฟื้นตัวบ้าง


            ·   ปกติผลจะสังเกตเห็นชัดเจนหลังทำไปแล้ว 4-6 ครั้ง คนไข้จะพบว่าไขมันส่วนเกินลดลง ผิวเรียบเนียนขึ้น และรูปร่างกระชับมากขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกรายนะคะ บางคนมีไขมันส่วนเกินค่อนข้างเยอะแล้วหวังเห็นผลตามจำนวนครั้งที่บอกไปนี่ก็คงไม่ใช่ ถ้าอยากเห็นผลก็ต้องเพิ่มจำนวนครั้งในการทำมากขึ้น แต่จะเป็นกี่ครั้งต้องให้คุณหมอเป็นคนตอบค่ะ









ขอบคุณข้อมูล & ภาพประกอบ  : โรงพยาบาลยันฮี

ไม่มีความคิดเห็น: