วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

หล่อมาดแมน...ใครบอกต้องรอชาติหน้า

อยากเป็นชาย ไม่ใช่นึกอยากแล้วจะทำได้เลย ก็เหมือนกับคนที่อยากแปลงเป็นหญิงนั่นแหละ จิตแพทย์ต้องทดสอบก่อนว่าอยากเป็นจริงๆ มุ่งมั่นแค่ลมปากหมอคนไหนก็ไม่กล้าลงมีดให้ค่ะ แต่ถ้าผ่านเกณฑ์ฉลุยก็ลุยเลย อันที่จริงการแปลงเพศเป็นชาย เท่าที่ไปสืบค้นข้อมูลมามีวิธีการทำ 3 ขั้นตอน แต่คนไข้สามารถเลือกได้นะว่าอยากทำแค่ขั้นตอนไหน คืออยากเปลี่ยนแปลงร่างกายไปมากน้อยแค่ไหนนั่นแหละ บางคนอยากเปลี่ยนเฉพาะบางส่วนก็พอใจล่ะ อย่างนี้ก็เลือกทำบางขั้นตอน แต่บางคนอยากเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ก็ทำเหมาเลย 3 ขั้นตอนค่ะ
  


ก่อนจะไปดูกันว่าแต่ละขั้นตอนทำยังไงมั่ง ขอพูดเรื่องการเตรียมตัวก่อนผ่านิดนึง นอกจากเตรียมตัวเหมือนการผ่าตัดใหญ่อื่นๆ ทั่วไป หยุดกินฮอร์โมนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ที่จะเน้นย้ำก็คือเรื่องการหยุดสูบบุหรี่ แค่ 2 อาทิตย์อย่างการผ่าตัดอื่นๆ ไม่พอนะคะ ต้องอย่างน้อย 3 เดือน แล้วยิ่งใครที่จะผ่าขั้นตอนที่ 2 - 3 ด้วย ต้อง No Smoking เด็ดขาดไปเลยจร้า


เอาล่ะ ทีนี้มาดูกันว่าการผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย 3 ขั้นตอนมีอะไรบ้าง

ขั้นตอนที่ 1 : คุณหมอจะผ่าตัดเอาเต้านม มดลูก และรังไข่ออก อะไรที่มันเป็นสัญลักษณ์เพศหญิงไม่เก็บไว้ให้ตำตาตำใจค่ะ เผอิญว่ามดลูกกับรังไข่เนี่ย เป็นอะไรที่อยู่ข้างในก็จะไม่ทิ้งร่อยรอยให้เห็น แต่หน้าอกที่มันอยู่ภายนอกนี่สิ คุณหมอจะเลาะเต้านมออกทั้งหมด เพื่อให้หน้าอกแบนราบเหมือนผู้ชาย ก็อาจทิ้งรอยแผลเป็นฝากไว้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดหน้าอกด้วยค่ะ ถ้าเป็นคนหน้าอกเล็ก คุณหมอสามารถเลาะเต้านมผ่านทางปานนมได้ ยังงี้ก็จะมีรอยแผลที่ปานนม พอนานไปก็จะกลืนหายไปเอง แต่ถ้าหน้าอกโตมาก ก็จะมีผิวหนังหน้าอกส่วนเกินเยอะ แถมเปอร์เซ็นต์ที่หัวนมจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นมีสูง เช่น อาจอยู่ต่ำไป นอกจากคุณหมอจะต้องเลาะเต้านมทิ้งทั้งหมด ยังต้องตัดผิวหนังหน้าอกส่วนเกินออกและย้ายตำแหน่งหัวนมและปานนมให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะอยู่ กรณีนี้ก็จะมีรอยแผลเป็นรูปตัว T ได้

ขั้นตอนที่ 2 : คุณหมอจะทำการผ่าตัดที่ต่างกันชัด ๆ 2 อย่างค่ะ
-  อย่างแรกเลย ปิดช่องคลอดพร้อมกับยืดท่อปัสสาวะ จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆยังงี้ค่ะ พอจะเป็นผู้ชายแล้วไอ้ช่องคลอดมันก็ไม่จำเป็นล่ะ ก็ปิดมันไปซะเลย ซึ่งตอนที่ผ่าตัดปิดช่องคลอดเนี่ย ก็จะยืดท่อปัสสาวะรอเอาไว้ก่อน อนาคตถ้าต่อจู๋ก็จะได้ต่อกับท่อปัสสาวะที่ฝังอยู่ในองคชาตเทียมได้เลย
อย่างที่สอง คุณหมอจะผ่าตัดสร้างท่อปัสสาวะบริเวณท้องแขนเอาไว้ โดยเอาผิวหนังบริเวณใต้สะโพกไปปลูกภายในท่อ ถามว่าทำไปทำไม? ทำไว้เพราะคุณหมอเค้าต้องเอาเนื้อเยื่อที่ท้องแขนตรงนี้แหละไปสร้างเป็นองคชาตเทียม แล้วถ้าจะให้เหมือนธรรมชาติสุดๆ ก็ต้องมีท่อปัสสาวะอยู่ภายในด้วย เพราะพวกผู้ชายเค้าต้องฉี่ผ่านทาง “จู๋” ยังไงล่ะ ไม่งงนะ

ขั้นตอนที่ 3 :     มาถึงขั้นตอนสร้างองคชาตและถุงอัณฑะล่ะ องคชาตเทียมก็จะสร้างจากเนื้อเยื่อท้องแขนที่คุณหมอเตรียมไว้ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 2 ไง โดยจะปั้นแต่งให้คล้ายคลึงองคชาตที่สุด เมื่อนำมาต่อเป็นจู๋ก็จะต่อทั้งเส้นเลือด เส้นประสาท และท่อปัสสาวะเข้าด้วยกัน ในส่วนนี้ก็จะใช้เทคนิคจุลศัลยกรรมเข้ามาช่วยด้วย ส่วนถุงอัณฑะจะเอาเนื้อเยื่อจากบริเวณแคมใหญ่มาเย็บเป็นก้อนกลม 2 ก้อนให้ดูคล้ายกับถุงอัณฑะค่ะ


เห็นหลายขั้นตอนก็อย่าเพิ่งตกใจ คุณหมอเค้าไม่ได้ทำรวดเดียว ทำไปขั้นตอนหนึ่งแล้วก็ต้องทิ้งช่วงเวลาให้คนไข้ได้หายใจหายคอ รอให้เนื้อเยื่อหายสนิทก่อนถึงจะผ่าตัดขั้นต่อไปได้ โดยปกติจะทิ้งช่วงประมาณ 3-6 เดือน คือถ้าใครทำแบบเบ็ดเสร็จครบทุกขั้นตอนก็ต้องใช้เวลากว่าหนึ่งปี บางทีถึง 2 ปีเลยก็ได้ค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น: