วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ปากดำ...ทำไงดี

        อยากปากเป็นสีชมพูดูหวาน เป็นสาวสุขภาพดี แต่ส่องกระจกทีไรเห็นแต่ปากดำนี่สิ เฮ้อ จะทาลิปสติกกลบเกลื่อนก็แค่หลอกตาชั่วคราว ความจริงยังคอยสะกิดใจอยู่เรื่อยๆ  ไม่เอ๊า ไม่เอา ได้มั้ยไอ้ปากดำเนี่ย



         ใครๆ ก็ไม่อยากปากดำ จะเพศหญิงเพศชายไม่มีข้อยกเว้นหรอก แต่ถ้าปัญหาปากดำเกิดจากกรรมพันธุ์ คือมียีนผิวคล้ำติดตัวมา อันนี้ก็ต้องทำใจนิดนึง เพราะริมฝีปากก็จะมีสีคล้ำด้วย แต่ถ้าไม่ใช่คนผิวคล้ำแต่กำเนิด ให้ถามตัวเองก่อนว่า คุณได้ทำพฤติกรรมที่ทำร้ายริมฝีปากอยู่หรือเปล่า เช่น สูบบุหรี่จัด , ชอบกัดริมฝีปากตลอดเวลา, รู้ตัวว่าแพ้ดินสอเขียนตัดขอบปาก ลิปสติก -  ขี้ผึ้งทาปากบางยี่ห้อก็ยังจะฝืนใช้ต่อ, กินยาบางตัว ถ้ายังหลีกเลี่ยงต้นตอเหล่านี้ไม่ได้ ทำยังไง้ ยังไง ก็ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาปากดำได้อย่างถาวร ฉะนั้น ต้องลด ละ เลิก สิ่งเหล่านี้ให้ได้ก่อน ไม่ซ้ำเติมไปทุกวี่ทุกวัน บางทีอาจไม่ต้องวิ่งไปหาหมอเลย ริมฝีปากที่คล้ำก็จะเริ่มดีขึ้นได้ เพราะตามธรรมชาติร่างกายจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาผลัดเปลี่ยนกับเซลล์ผิวเดิมอยู่แล้ว



         เอ้า ถ้าทำแล้วปากก็ยังไม่ชมพู้ ชมพู สมใจ ก็คงต้องพึ่งบริการคุณหมอแล้วล่ะ สมัยนี้มียาทาช่วยได้ หยุดยาแล้วปากก็ไม่กลับไปดำคล้ำอีก เว้นแต่จะกลับไปทำพฤติกรรมเดิมๆ ซ้ำอีก ซึ่งคนแบบนี้มีไม่น้อย แล้วก็มาโวยวายว่าใช้ยาแล้วทำไมไม่ได้ผล บอกเลยยาเทวดาก็ช่วยไม่ได้ จบนะ!
        
        แต่ถ้าใช้ยาแล้วผลที่ออกมาก็ยังไม่ถูกจริตอีก ขอแนะนำอีก 2 วิธี คือให้ไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำ “เลเซอร์” หรือไม่ก็ สักปากชมพู มันซะเลย


        การใช้เลเซอร์จะเป็นการไปทำลายเม็ดสีผิวบางส่วนออกไปก็จะทำให้ปากหายดำคล้ำได้ เดี๋ยวนี้เทคนิคนี้ไม่ยุ่งยาก ไม่น่ากลัว หายห่วงเรื่องเจ็บขณะทำได้เพราะคุณหมอจะทายาชาที่ริมฝีปากก่อนยิงเลเซอร์  หลังทำก็จะให้คนไข้ประคบเย็นสักพักเพื่อไม่ให้แสบร้อนปาก กลับบ้านไปก็ทายาที่คุณหมอจัดให้ไป และเลี่ยงสิ่งต่างๆ เหล่านี้สักระยะ เช่น อาหารรสจัด ยาสีฟันที่มีรสเข้มข้นหรือเผ็ดจัด การทาลิปสติกหรือขี้ผึ้งทุกชนิด คุณหมอก็จะนัดมาดูก็ขอให้มาตามนัดด้วย ส่วนต้องมายิงเลเซอร์กี่ครั้ง ก็ขึ้นกับความเข้มของสีผิวที่ปาก แต่ส่วนใหญ่มักทำประมาณ 2-3 ครั้ง

        ก็เหมือนกับการทายานั่นแหละ ถึงจะทำเลเซอร์ไปแล้ว ปากกลับมาชมพูดูฟรุ้งฟริ้งก็สามารถกลับไปดำคล้ำได้อีกถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรมเก่า  

ส่วน “การสักปากชมพู” ก็เป็นอีกวิธีที่สาวๆ นิยมกัน เพราะสักไปแล้วปากเป็นสีชมพูถาวร เนื่องจากสีที่ใช้จะเป็นสีที่ติดทนนานและถาวร และไม่ทำปฏิกิริยากับร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ สนใจวิธีนี้ก็ไปปรึกษาคุณหมอได้เลย ส่วนใครที่กังวลเรื่องเข็มสัก หายห่วงได้ถ้าเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน คุณหมอจะพิถีพิถันในเรื่องนี้มาก ไม่ได้ใช้เข็มแบบเวียนกันใช้แต่เป็นเข็มชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง


หลังสักปากชมพูไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะน้ำลายอาจทำให้สีที่สักไว้จางลงได้ ช่วง 1 สัปดาห์หลังสักให้ระวังเรื่องดื่มกินด้วยคือ อย่าเพิ่งไปดื่มเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นจัด เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ผสม เพราะอาจทำให้สีที่สักไว้หลุดออกไป ให้ทายาตามที่หมอจัดให้ไป ช่วงนี้เมคองเมคอัพก็เลี่ยงไปก่อน รอให้หายแล้วค่อยสวยก็ยังทัน ถ้าริมฝีปากมีสะเก็ด ก็อย่ามือบอนเที่ยวไปแกะหรือลอกออกล่ะ สังเกตตัวเองด้วยหลังสักไปแล้วมีอาการผิดปกติอะไรมั่งมั้ย ถ้ามีก็กลับไปหาหมอ อย่าวินิจฉัยหรือรักษาเอง อันนี้ดักคอไว้ก่อนเพราะพวกมั่นว่าข้าแน่นี่เห็นตกม้าตายมาเยอะ




ไม่มีความคิดเห็น: